คอลลาเจน คือหนึ่งในอาหารเสริมที่ขายดีแล้วก็นิยมมากที่สุดในกลุ่มผู้หญิงที่รักสุขภาพ แต่ว่าเพื่อนๆเคยสงสัยไหมครับว่า คอลลาเจนคืออะไรมันดีจริงหรือเปล่าหรือว่า มีประโยชน์อะไรบ้างและจริงไหมที่เขาบอกว่าคอลลาเจนมีส่วนช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้นและแถมยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ต่อมาถ้าเราทำ Intermittent Fasting ด้วยเราควรกินคอลลาเจนเวลาไหน หรือเราควรจะกินตอนที่เราอดอาหารหรือว่าพร้อมกับอาหารดี
วันนี้จะมาแนะนำวิธีกินคอลลาเจนและ 5 ประโยชน์ของคอลลาเจนที่เป็นเพื่อนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นเอ็นกระดูกอ่อนข้อต่อมวลกล้ามเนื้อและก็ผิวหนังของเรา ประเด็น คือเมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายเราจะสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้น และก็ผลิตคอลลาเจนน้อยลง ซึ่งผลเสียที่เห็นได้ชัดก็คือผิวเราอาจจะแห้งกร้าน ไม่กระชับดูแก่กว่าวัย และข้อต่อต่างๆโดยเฉพาะเข่าอาจจะมีอาการปวดหรือว่าบวมขึ้นมาได้
ถึงแม้ว่าคอลลาเจนจะมี 28 ชนิด แต่หลักๆแล้วคอลลาเจนจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ชนิดใหญ่ๆดังนี้ครับ คอลลาเจนไทพ์วัน ที่มีมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณคอลลาเจนที่มีในร่างกายเรา และส่วนมากก็จะอยู่ตามผิวหนังข้อต่อและก็ฟันเป็นต้นครับ คอลลาเจนชนิดที่ 2 หรือว่าคอลลาเจนไทพ์ทูจากเป็นชนิดที่พบมากในกระดูกอ่อนตามข้อต่อต่างๆซึ่งจะมีหน้าที่คอยรองรับแรงกระแทกนั้นเองครับ คอลลาเจนชนิดที่ 3 หรือว่าคอลลาเจนไทพ์ทรี จะเป็นส่วนประกอบของอวัยวะภายในเส้นเลือดแดงและก็,มวลกล้ามเนื้อครับ ส่วนคอลลสเจนชนิดที่ 4 หรือว่าคอลลาเจนไทพ์โฟร์ จะเป็นชนิดที่พบได้ตามผิวหนังซึ่งมีหน้าที่กรองสิ่งต่างๆก่อนที่จะเข้าสู่ร่างกายเราครับ
คำถาม คือ อาหารเสริมคอลลาเจนดีจริงหรือเปล่า สิ่งที่เป็นเพื่อนต้องรู้ก่อนก็คือเวลาที่เรากินอาหารเข้าไป เช่นโปรตีนร่างกายเราจะต้องแยกโปรตีนออกเป็นกรดอะมิโนก่อนแล้วค่อยเอาไปรวมกันเพื่อเป็นโปรตีนทีหลัง คอลลาเจนที่ได้จากอาหารที่เป็นธรรมชาติอาจจะไม่ได้กลายเป็นคอลลาเจนให้กับร่างกายโดยตรง ความแตกต่างกันอยู่ตรงที่โปรตีนที่ได้จากคอลลาเจน 2 ชนิดนั่น ก็คือไฮโดรไลซ์คอลลาเจนและอาหารเสริมเจลาตินได้ผ่านกระบวนการแยกกรดอะมิโนออกจากโปรตีนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อดีคือขนาดของโปรตีนจะเล็กลงกลายมาเป็นเปปไทด์ piptide ซึ่งร่างกายเราจะสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้นและก็นำไปใช้ได้เลยทันที เมื่อเพื่อนๆมีความเข้าใจมากแล้วเรามาดูกันต่อครับว่า
คอลลาเจนมีประโยชน์อะไรบ้าง
ประโยชน์ข้อที่ 1 คอลลาเจนอาจจะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อเพื่อลดไขมันได้ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้มวลกล้ามเนื้อมีความแข็งแรง และทำงานได้อย่างปกตินั่นก็คือกล้ามเนื้อสามารถยืดและก็หดตัวได้ดี โดยทั่วไปเมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายเราก็จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นด้วย และอาหารเสริมคอลลาเจนผ่านจะช่วยชะลอการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ครับ เพราะงานวิจัยพบว่ากลุ่มผู้เข้าทดลองที่กินอาหารเสริมคอลลาเจนวันละ 15 กรัมต่อวันเป็นเวลา 3 เดือน และเล่นเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วยสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่กินอาหารเสริมคอลลาเจนครับ
นักวิจัยยังพบอีกว่าคอลลาเจนมีส่วนช่วยเพิ่มระดับครีเอทีนในกระแสเลือดที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มพละกำลังในการออกกำลังกาย แล้วก็ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อหลังจากที่เราออกกำลังกายเสร็จด้วยครับ เพื่อนๆครับตอนนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือมารองรับว่าอาหารเสริมคอลลาเจนมีส่วนช่วยให้เราลดน้ำหนัก และถึงแม้ว่าอาหารเสริมคอลลาเจนจะช่วยให้เราสร้างมวลกล้ามเนื้อเพื่อลดไขมันได้มากขึ้นแต่เราก็ยังควรเน้นกินอาหารที่มีโปรตีนสูงที่ได้จากธรรมชาติเพื่อให้ได้โปรตีนต่อวันที่เพียงพอด้วย
ประโยชน์ข้อที่ 2 คอลลาเจนอาจจะช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น คอลลาเจน คือส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผิวเรามีน้ำมีนวลไม่แห้งกร้านและก็มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ปัญหาก็คือเมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายเราก็จะสามารถสร้างคอลลาเจนเองได้น้อยลง ซึ่งก็อาจจะทำให้ผิวเรามีรอยย่นมีร่องลึกและดูแก่กว่าวัยได้ครับ งานวิจัยพบว่าการที่ร่างกายเราได้รับคอลลาเจนจากอาหารเสริมมากขึ้น อาจจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนเองได้มากขึ้นครับ เพราะนักวิจัยพบว่า กลุ่มผู้หญิงที่กินอาหารเสริมคอลลาเจนวันละ 2.5 ถึง 5 กรัมต่อวันเป็นเวลา 2 เดือนจะรู้สึกได้เลยว่า ผิวมีความชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่นมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้กินอาหารเสริมคอลลาเจนครับ
ประโยชน์ข้อที่ 3 ก็คือคอลลาเจนอาจจะช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนเพื่อนๆรู้ไหมครับว่าคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง และมีผู้หญิงอายุมากขึ้นมวลกระดูกก็อาจจะน้อยลงตามไปด้วยทำให้ผู้หญิงเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย หรือบางทีแค่หกล้มนิดหน่อยก็อาจจะกระดูกหักและสุขภาพฟันก็อาจจะไม่แข็งแรงได้ครับ จากการศึกษาพบว่าอาหารเสริมคอลลาเจนอาจจะช่วยชะลอการสูญเสียของมวลกระดูกในผู้หญิงได้
เพราะนักวิจัยพบว่ากลุ่มผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนกินอาหารเสริมแคลเซียมวิตามินดี 3 และอาหารเสริมคอลลาเจนวันละ 5 กรัม เป็นเวลา 3 เดือนมีค่า BDM Bone mineral density ที่วัดความแข็งแรงของกระดูกมากกว่าอีกกลุ่มที่ได้รับแค่อาหารเสริมแคลเซียมแล้วก็วิตามิน D3 ครับ
ประโยชน์ข้อที่ 4 คอลลาเจนอาจจะช่วยลดอาการปวดบวมตามข้อต่อต่างๆ Collagen คือตัวช่วยหลักที่มารองรับแรงกระแทกตามข้อต่อปัญหาก็คือเมื่อเรามีอายุมากขึ้น และมีคอลลาเจนน้อยลงมันก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงที่จะเป็นโรคปวดตามข้อ โดยเฉพาะอาการปวดบวมที่เขาจากการศึกษาพบว่าการกินอาหารเสริมคอลลาเจนอาจจะช่วยลดอาการปวดตามข้อได้ เพราะคอลลาเจนจากเข้าไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้เองมากขึ้นนั่นเองครับ ซึ่งการที่ร่างกายเรามีระดับคอลลาเจนมากขึ้นมันก็จะเข้าไปช่วยลดการเสียดสีของกระดูกอ่อนและอาการปวดบวมตามข้อต่อต่างๆ นั้นเองครับ
นอกจากนี้เป็นเพื่อนที่ออกกำลังกายเป็นประจำเช่นวิ่งอยู่บ่อยๆเราก็อาจจะเสี่ยงที่จะมีอาการบาดเจ็บตามข้อต่อต่างๆได้งานวิจัยที่ให้นักกีฬากินอาหารเสริมคอลลาเจนวันละ 10 กรัมเป็นเวลา 6 เดือนพบว่าพวกเขามีอาการบาดเจ็บที่ข้อน้อยลงและร่างกายก็สามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าช่วงที่ไม่ได้กินอาหารเสริมคอลลาเจนด้วยครับ สำหรับเพื่อนๆที่มีอาการปวดตามข้อนักวิจัยเขาแนะนำว่าเราอาจจะกินอาหารเสริมคอลลาเจนให้ได้วันละประมาณ 8 ถึง 12 กรัมต่อวันก่อนครับ
ประโยชน์ช้อที่ 5 ก็คือคอลลาเจนอาจจะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ ความเสี่ยงของเส้นเลือดหัวใจจะมีมากขึ้นทันที ถ้าเส้นเลือดแดงของเราอ่อนแอและไม่สามารถส่งเลือดไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้ ถ้าเรามีระดับคอเลสเตอรอลเลวหรือว่า LDL มากขึ้นและมีค่าคอเลสเตอรอลดี หรือว่า HDL น้อยลงเราก็จะมีความเสี่ยงของโรคหัวใจมากขึ้นเช่นกัน งานวิจัยพบว่ากลุ่มผู้เข้าทดลองไปกินอาหารเสริมคอลลาเจนวันละ 16 กรัมเป็นเวลา 6 เดือนมีค่าเลือดต่างๆดีขึ้น และสามารถเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลดีหรือว่า HDL ได้มากถึง 6 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวครับซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจนั้นเองครับ
ของแถม
เพื่อนๆ ควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้นด้วยนั่นก็คือ
1. ลดหรือเลี่ยงน้ำตาลทุกชนิดเพราะว่าน้ำตาลจะเข้าไปลดการสร้างคอลลาเจนของร่างกายครับ
2. ไม่อยู่กลางแดดนานๆโดยไม่ทาครีมกันแดดเพราะว่ารังสี UV จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในร่างกายเราทำให้ผิวเราดูผิวแห้งและดูแก่กว่าวัยได้ครับ
3. ไม่ดูดบุหรี่อยู่ใกล้คนดูดบุหรี่เพราะควันบุหรี่ก็จะเข้าไปลดการสร้างคอลลาเจนของร่างกายได้เหมือนกัน
